ผ่านไปประมาณ 1 เดือนหลังการปรับอัลกอริธึ่มบนหน้า News Feed หลายคนคงรู้สึกแล้วว่า มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลง เลยขอชวนมาเปิดดูข้อมูลที่เป็นตัวเลขให้ชัดๆ กันไปเลยดีกว่า
หลังการปรับอัลกอริธึ่มบน News Feed ครั้งใหญ่ของ Facebook มาได้ประมาณ 1 เดือน เรามาเปิดข้อมูลตัวเลขดูกันดีกว่า ว่าเอาเข้าจริงแล้ว ที่บ่นกันว่ายอด Reach ลดลงนั้น ลดกันไปเท่าไหร่ในทางสถิติ?
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Chartbeat เปิดเผยข้อมูลว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา traffic บน Facebook ของเพจต่างๆ ลดลงไปทั้งหมด 6%
6% อาจฟังเป็นตัวเลขที่ดูไม่สูง แต่ถ้าย้อนไปดูตัวเลขก่อนหน้านี้ ในปี 2017 Facebook ได้ทำการปรับลดยอด Reach ไปแล้วถึง 15% และที่สำคัญ ส่งผลต่อคนทำเพจกว่า 50,000 รายทั่วโลกอย่างเสมอหน้ากัน
สำหรับเพจ ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่า traffic หรือยอด Reach ได้หายไปเท่าไหร่ เพราะบางเพจได้รับผลกระทบ แต่บางเพจก็คงที่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก
แต่ที่กระทบเต็มๆ ชนิดที่ไม่ต้องสืบให้เสียเวลา คือคอนเทนต์ประเภท “ข่าว”
มีข้อมูลรายงานว่า สำนักข่าวอย่าง The New York Times, Washington Post, CNN และ BuzzFeed มียอดเข้าชมต่ำลงถึง 14% ใน 1 เดือนให้หลังมานี้ แม้ตอนหลัง BuzzFeed จะออกมาบอกปัดว่า ยอดไม่ตก ไม่ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อขอดูสถิติยอดเข้าชมเว็บไซต์ กลับไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆ
Digiday รายงานว่า Facebook ได้เตือนไว้แล้วว่า จะลดจำนวนสัดส่วนข่าวที่แสดงบนหน้า News Feed จากแต่เดิมที่ 5% เหลือเพียง 4% นั่นหมายความว่า คนทำคอนเทนต์ข่าวน่าจะได้รับผลกระทบอีกประมาณ 20% หลังจากนี้
มีข้อมูลจาก True Anthem ที่เป็นบริษัทสาย Content Distributor ให้กับสื่อ เพจ และแบรนด์ต่างๆ ใช้ AI เข้ามาวิเคราะห์ traffic บนสื่ออนไลน์ในช่วง 90 วันให้หลังมานี้หลังการประกาศใหญ่ของ Facebook
สิ่งที่พบคือ เพจออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งสื่อสำนักข่าว มียอดตกสูงถึง 11.3% ในขณะที่ข่าวที่เป็น Local หรือข่าวในชุมชนท้องถิ่นมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 25.8% (การเติบโตของ Reach ในข่าว Local เป็นไปตามนโยบายของ Facebook ที่ต้องการผลักดัน) ส่วนด้านของสื่อนิตยสารก็ยังเติบโตอยู่ที่ 3.6%
ตัวเลขยืนยันอีกชุดมาจากทาง Chartbeat ที่เก็บสถิติหลังบ้านของลูกค้าที่เป็นสื่อออนไลน์รายใหญ่หลายรายในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายแห่งทั่วโลก โดยระบุว่า ยอดคนอ่านข่าวผ่าน Google สูงกว่า Facebook มาตั้งแต่ต้นปี 2017 แล้ว
ตัวเลขที่เก็บตั้งแต่เดือนมกราคม จนถึงเดือนสิงหาคมในปี 2017 บอกชัดว่า คนอ่านข่าว (จากลูกค้าของ Chartbeat) ผ่าน Google มีถึง 1,300 ล้านคนทั่วโลก คิดเป็น 40% ของ traffic ที่มาจากแหล่งอ้างอิงข้างนอก ไม่ได้มาการเข้าเว็บไซต์โดยตรง ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก ส่วนถ้านับเป็นจำนวนยอดเข้าชมทั้งหมดบนเว็บไซต์ จะคิดเป็น 21% ของทั้งเว็บไซต์เลยทีเดียว
ถ้าดูกราฟด้านล่างของ Chartbeat จะเห็นความชัดมากขึ้นว่า ยอดคนอ่านข่าวผ่าน Google ทำคะแนนแซง Facebook มาตั้งแต่ต้นปี 2017 และเริ่มทิ้งห่างเรื่อยๆ เมื่อเข้าไตรมาสที่ 4 ของปี และเมื่อเข้าสู่ปี 2018 ยอดของ Google ก็ยิ่งทิ้งห่าง Facebook ไปอย่างต่อเนื่อง